เธอคือ "ซอลีอะห์ บิลยีหมัด" ความภาคภูมิใจจากการเข้าร่วมกิจกรรมห้องเรียนชุมชนคูเต่า.....
ซอ รีอะห์แปลว่าผู้หญิงที่ดี เธอเป็นคนดั้งเดิมของตำบลคูเต่า เกิดที่หมู่7 มีพี่น้อง 7 คน เป็นผู้หญิง 5 คน เธอเป็นลูกคนที่ 5 หลังเรียนจบมัธยมปลาย เธอไปเรียนหลักสูตรระยะสั้นตัดเย็บเสื้อผ้า ทำงานร้านอาหารเป็นแม่ครัว ต่อมาก็แต่งงานจึงได้กลับมาเป็นแม่บ้าน และตอนอายุ 25 เธอมีลูกชาย 1 คน
“ความที่ครอบครัวมีแต่ผู้หญิง พี่สาวก็เป็นคนรักสุขภาพ พวกเราจึงสนใจเรื่องความสวยงามมาก่อนนี้แล้ว ว่างๆก็หาสมุนไพรที่จะมาช่วยบำรุงเลือด ทุกเสาร์อาทิตย์สมาชิกในบ้านจะหาสมุนไพรมาลองใช้กัน มาเรียนรู้กัน” ซอรีอะห์ เล่าพื้นเพในชีวิตครอบครัว
นอกจากความรักสวยรักงามแล้ว ความเป็นแม่บ้านก็ทำให้ต้องดูแลค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ครอบครัวของเธอมีการลงขันในการซื้อเข้าของเครื่องใช้ต่างๆเฉลี่ยต่อเดือนคน ละ 500 บาท ซื้อข้าวสาร แก๊ส ของใช้ในครัวเรือน จิปาถะเท่ากับว่ามีรายจ่ายประจำในครัวเรือน
เมื่อมาร่วมกิจกรรมกับห้องเรียนชุมชนตำบลคูเต่า เธอถูกชักชวนมาเพราะพี่สาวที่เป็นครูศูนย์เด็กเล็กเข้ามาก่อน จากนั้นเธอก็มาเป็นสมาชิกขาประจำ
“เป็นแม่บ้าน เลี้ยงลูกเลยมีเวลาว่างจึงสนใจมาร่วมกิจกรรม” ซอรีอะห์เล่าว่าหลังจากเรียนรู้การทำน้ำยาเอนกประสงค์ สูตรใช้กรดมะนาว ได้นำกลับมาทดลองใช้ จากนั้นก็ลงมือทำเองหลังการเรียนรู้ เธอสังเกตการณ์เห็นความแตกต่างหลังจากนำมาใช้
“เราเปิดดูท่อน้ำเลยว่ามีไขมันออกมาไหม การมาเรียนทำให้มองเห็นต้นเหตุของน้ำเสียในครัวเรือนที่มาจากของที่ใช้ใน ชีวิตประจำวัน จากผลิตภัณฑ์ในท้องตลาด”
จากนั้นเธอทดลองทำสบู ใส่สมุนไพร เช่น ว่านนางคำ(ช่วยลบจุดด่างดำทำให้ผิวขาว ฝ้าเจือจาง) ขมิ้นชัน เนื่องจากในครอบครัวมีผู้หญิงมาก ชอบความสวยงาม และใส่กลิ่นที่ชอบ สมุนไพรที่ใช้ก่อนใช้ก็ค้นหาความรู้ผ่านอินเตอร์เน็ตว่ามีประโยชน์อะไร
เธอนำน้ำยาเอนกประสงค์มาใช้ล้างจาน ซักผ้า ล้างห้องน้ำ ต่อมาได้พัฒนารูปแบบการใช้ด้วยการแยกสีแยกกลิ่นตามใจชอบใส่ขวดให้เห็นชัดเจน เพราะเจอปัญหาว่ามีการนำมาใช้แล้วหยิบผิดกลิ่น เช่น นำน้ำยาล้างห้องน้ำไปซักผ้า เลยได้ความคิดใส่สีผสมอาหารลงในน้ำยาเอนกประสงค์แยกประเภทน้ำยาเอนกประสงค์ ที่ใช้
“เวลาเราขัดห้องน้ำ เราเทใส่แปรง ขัดล้างได้เลย ไม่ต้องรอเทราดไว้แล้วค่อยมาขัดถูเป็นที่ระคายเคือง กัดมือ เหม็นฉุนเข้าจมูก พอหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่เราทำเอง ไม่ใช้สารเคมี ไม่มีปัญหากับมือ ไม่สร้างมลภาวะให้สิ่งแวดล้อมทำให้ทุกคนสนุกกับการทำความสะอาด”
จากนั้นเธอก็เริ่มทำสบู่เหลว ทำสูตรมุข ใส่น้ำนมข้าว ทำสบู่ก้อนทาหน้า สูตรถ่านไม้ไผ่ ขมิ้นชัน มะขามเปียก
“ช่วยลบจุดด่าง คนที่นำไปใช้เห็นชัดเลยว่าหน้าใสขึ้น” นอกจากนั้น ยังทำน้ำยาปรับผ้านุ่ม
“รายจ่ายในครัวเรือนที่มาลงขันกันลดลงเหลือคนละ 300 บาท ตอนนี้ซื้อเฉพาะแก๊ส ข้าวสาร แถมเรารู้จักสมุนไพรมากขึ้น ที่สำคัญ มีบทบาทในการสอนคนข้างบ้าน แนะนำคนอื่นได้ โดยเฉพาะน้ำยาเอนกประสงค์ พี่สาวก็อยากให้ไปสอนเด็กที่โรงเรียน" เธอพูดถึงสิ่งที่ได้จากการเข้าร่วมกิจกรรมห้องเรียนชุมชน "เรามาเรียนก็ได้พบเพื่อนมากขึ้น ได้ความรู้ ที่ดีมากๆก็คือได้ช่วยคนข้างบ้านที่ยากจนในด้านการลดรายจ่าย”
นี่คือความภาคภูมิใจของซอรีอะห์ บิลยีหมัด.
ข้อความจาก Facebook : Soleehah Binyeemad
ถ้าทำแล้วช่วยให้น้ำในคลองดีขึ้นก็อยากจะช่วยมากๆเลยค่ะเพราะโตมากับน้ำในคลองนี้ว่ายน้ำเป็นก็ในคลองนี้แหละ และก็อยากให้ลูกว่ายน้ำเป็น แต่น้ำในคลองทุกวันนี้ไม่มีคนกล้าลงไปใช้กันแล้ว ถ้าหากว่าทำแล้วดีขึ้นก็น่าจะสนับสนุนน่ะ ต่อไปคนรุ่นลูกเราก็จะได้ใช้กันต่อๆไป
